ภาพประกอบเนื้อหา
คำวินิจฉัยถึงที่สุดแล้ว ร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค. อีกไม่ได้
เรื่องดำที่ 6220008 เรื่องแดงที่ 0026262
ผลคำวินิจฉัย ไม่รับเรื่องร้องทุกข์ไว้พิจรณา
กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
1. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
2. กฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551
การร้องทุกข์ที่เหตุแห่งทุกข์เกิดจากอธิบดี ต้องร้องทุกข์ต่อปลัดกระทรวงซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องทุกข์ และเมื่อปลัดกระทรวงมีคำวินิจฉัยร้องทุกข์ในประการใดแล้ว คำวินิจฉัยดังกล่าวถือเป็นที่สุด หากผู้ร้องทุกข์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าว ต้องใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองชั้นต้น โดยไม่อาจนำเรื่องดังกล่าวมาร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค. ได้
ข้อเท็จจริง
ผู้ร้องทุกข์ ซึ่งรับราชการตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ ในส่วนราชการระดับกรมแห่งหนึ่ง ได้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ ของกรมต้นสังกัด แต่เมื่อผลการคัดเลือกผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินผลงานเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งฯ ประกาศออกมา ปรากฏว่าผู้ร้องทุกข์ไม่ได้รับการคัดเลือก ผู้ร้องทุกข์จึงได้มีหนังสือร้องทุกข์ต่อปลัดกระทรวงต้นสังกัดในเรื่องที่ไม่ได้รับการคัดเลือกดังกล่าว ต่อมา รองปลัดกระทรวง ในฐานะหัวหน้ากลุ่มภารกิจ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของกรมต้นสังกัดของผู้ร้องทุกข์ ได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์แก่ผู้ร้องทุกข์ โดยวินิจฉัยว่าคำร้องทุกข์ฟังไม่ขึ้น จึงให้ยกคำร้องทุกข์ โดยในท้ายหนังสือแจ้งผลการพิจารณาดังกล่าวระบุว่าหากไม่เห็นชอบด้วยกับคำวินิจฉัยร้องทุกข์ ให้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองชั้นต้น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองต่อไป ตามนัยข้อ 25 ของกฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 ประกอบมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2552 แต่ผู้ร้องทุกข์เห็นว่าคำวินิจฉัยร้องทุกข์ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่มีสภาพบังคับได้ตามกฎหมาย จึงได้มาร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค. โดยขอให้ ก.พ.ค. พิจารณาว่าคำวินิจฉัยร้องทุกข์เรื่องนี้ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
คำวินิจฉัย
ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อข้าราชการพลเรือนสามัญคับข้องใจจากการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติต่อตนของผู้บังคับบัญชา และเป็นกรณีที่ไม่อาจอุทธรณ์ได้ ผู้นั้นมีสิทธิร้องทุกข์ได้ โดยการร้องทุกข์ที่เหตุเกิดจากผู้บังคับบัญชาให้ร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไป และหากเหตุแห่งการร้องทุกข์เกิดจากอธิบดี ก็ให้ร้องทุกข์ต่อปลัดกระทรวงซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องทุกข์ และให้ปลัดกระทรวงเป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยร้องทุกข์ ทั้งนี้ ตามมาตรา 122 และมาตรา 123 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบข้อ 20 (3) ของกฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 เมื่อเรื่องนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ร้องทุกข์คับข้องใจจากการที่อธิบดีไม่คัดเลือกผู้ร้องทุกข์ให้เข้ารับการประเมินผลงานเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ ผู้ร้องทุกข์จึงมีสิทธิร้องทุกข์ในเรื่องดังกล่าว โดยถือว่าเหตุแห่งการร้องทุกข์เกิดจากอธิบดี อันต้องร้องทุกข์ต่อปลัดกระทรวงต้นสังกัดของผู้ร้องทุกข์ และปลัดกระทรวงเป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยร้องทุกข์ และกรณีดังกล่าวถือเป็นการร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไปตามมาตรา 123 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ซึ่งกฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 ได้กำหนดวิธีพิจารณาของผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไปประการหนึ่งในข้อ 25 วรรคสาม ว่า คำวินิจฉัยร้องทุกข์ของผู้มีอำนาจวินิจฉัยร้องทุกข์ให้เป็นที่สุด เมื่อผู้ร้องทุกข์ได้มีหนังสือร้องทุกข์ต่อปลัดกระทรวงต้นสังกัด และต่อมา รองปลัดกระทรวง ในฐานะหัวหน้ากลุ่มภารกิจ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของกรมต้นสังกัดของผู้ร้องทุกข์ ได้มีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์แก่ผู้ร้องทุกข์ กรณีจึงเป็นเรื่องที่มีคำวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์แล้ว และคำวินิจฉัยดังกล่าวเป็นที่สุด ซึ่งหากผู้ร้องทุกข์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าว ก็ต้องใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองชั้นต้นตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ตามนัยข้อ 25 วรรคสาม ของกฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 ประกอบกับในเรื่องนี้ก็ปรากฏในท้ายหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวซึ่งระบุไว้แล้วว่า หากไม่เห็นชอบด้วยกับคำวินิจฉัยร้องทุกข์ ให้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลปกครองชั้นต้น ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองต่อไป ซึ่งการไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ คือ การเห็นว่าคำวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์พิจารณาโดยไม่ชอบทั้งในประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย และหมายรวมถึงการเห็นว่าคำวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่มีสภาพบังคับได้ตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ดังนั้น ในเรื่องนี้จึงไม่เข้าลักษณะเป็นการคับข้องใจจากการปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติต่อตนของผู้บังคับบัญชา อันจะใช้สิทธิร้องทุกข์ตามมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และเป็นเรื่องที่ได้เคยมีการร้องทุกข์และได้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุดแล้ว กรณีจึงต้องห้ามมิให้รับคำร้องทุกข์ดังกล่าวไว้พิจารณา ตามนัยข้อ 42 (1) (5) ของกฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 ก.พ.ค. จึงไม่อาจรับเรื่องร้องทุกข์ของผู้ร้องทุกข์ไว้พิจารณาได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ก.พ.ค. จึงวินิจฉัยไม่รับเรื่องร้องทุกข์นี้ไว้พิจารณา และสั่งจำหน่ายเรื่องร้องทุกข์ออกจากสารบบ
วันที่