Skip to main content
x

 

แค่เรียก แต่ไม่ได้เงิน...ก็อาจผิดวินัย

 

เรื่องดำที่  6010095  เรื่องแดงที่ 0022163
ผลคำวินิจฉัย  อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น ให้ยกอุทธรณ์
การดำเนินการทางวินัย ต้นสังกัดดำเนินการ

 

               พฤติการณ์ที่ข้าราชการเรียกรับเงินจากบุคคลอื่น โดยอ้างว่าจะดำเนินการสิ่งหนึ่ง สิ่งใดให้ อันเป็นประโยชน์กับบุคคลอื่นนั้น แม้ข้าราชการผู้นั้นจะไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรง และบุคคลอื่นยังไม่ได้มอบเงินให้ก็ตาม ก็ถือเป็นความผิดฐานทำให้เสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการแล้ว

 

ข้อเท็จจริง

               นาย ศ. เจ้าของเรือประมงครอบปลากะตัก ได้แจ้งขอนำเรือเข้าระบบ แจ้งเข้าออกเรือประมงที่ศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า – ออก (PIPO) ในจังหวัด ก. โดยอ้างว่าเรือลำดังกล่าวไม่เคยอยู่ในระบบการแจ้งเข้าออกเรือประมงมาก่อน เนื่องจากไม่ได้ออกทำการประมงเป็นเวลานานแล้ว แต่ยังมีเอกสารบางอย่างที่ไม่เรียบร้อย ศูนย์ PIPO จึงมีคำสั่งกักเรือของนาย ศ. เพื่อตรวจสอบ เพราะหากตรวจสอบพบว่ามีการทำการประมงก่อนที่จะมาขอเข้าระบบ ก็จะมีความผิดฐานทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ ต่อมาเมื่อเจ้าของเรือได้เอกสารครบถ้วนและนำเอกสารมาแสดงต่อศูนย์ PIPO นาย น. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ PIPO และทีม จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพเรือของนาย ศ. ผลการตรวจสอบพบว่าสภาพของเรือน่าเชื่อว่าไม่ได้ใช้ทำการประมงมานานพอสมควร ซึ่งในการลงพื้นที่ไปครั้งนี้ ผู้อุทธรณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานประมงอาวุโส สำนักงานประมงจังหวัด ก. ได้ร่วมเดินทางไปด้วยโดยแจ้งว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ จะลงไปอำนวยความสะดวกและได้ร่วมตรวจสอบเรือด้วย แต่ไม่ได้เดินทางกลับขึ้นฝั่งโดยเรือลำเดียวกัน หลังจากนั้น ศูนย์ PIPO จึงมีคำสั่งยกเลิกการกักเรือประมงของนาย ศ. โดยไม่มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด 
               ต่อมาภรรยาของนาย ศ. ได้ส่งคลิปการสนทนากรณีเจ้าหน้าที่สำนักงานประมงเรียกรับเงินกับนาย ศ. โดยอ้างว่าจะนำไปจ่ายให้นาย น. เพื่อไม่ให้ดำเนินคดีกับตน นาย น. ฟังแล้วเห็นว่าน่าจะเสียงของผู้อุทธรณ์ที่กล่าวพาดพิงตนเอง ซึ่งอาจทำให้ตนเองเสียหาย จึงได้ส่งหลักฐานรายงานพฤติกรรมของผู้อุทธรณ์ต่อผู้บังคับบัญชา  ต่อมาศูนย์ PIPO แจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังอธิบดีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้อุทธรณ์ อธิบดีจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งผลการสืบสวนเห็นว่าเรื่องนี้มีมูลเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกับผู้อุทธรณ์ ผลการสอบสวนเห็นว่า กลุ่มงานตรวจพิสูจน์อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้ตรวจสอบคลิปเสียงดังกล่าวแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีการตัดต่อเสียงแต่อย่างใด และจากถ้อยคำของพยานบุคคลที่รับฟังได้ว่า เสียงในคลิปดังกล่าวเป็นของผู้อุทธรณ์ และนาย ศ. ได้โทรศัพท์ไปหาผู้อุทธรณ์จริง ประกอบกับการให้การที่ขัดแย้งกันของผู้อุทธรณ์ในชั้นสืบสวนข้อเท็จจริงและสอบสวนทางวินัย จึงรับฟังได้ว่า ผู้อุทธรณ์เรียกรับเงินจาก นาย ศ. เจ้าของเรือ จำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท โดยแอบอ้างว่าจะเอาไปให้หัวหน้าศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า – ออก (PIPO) เพื่อมิให้ดำเนินคดีกับเจ้าของเรือจริง  แม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่านาย ศ. ยังไม่ได้จ่ายเงินให้กับผู้อุทธรณ์ตามที่ผู้อุทธรณ์เรียกก็ตามอธิบดี โดยมติของ อ.ก.พ. กรมประมง จึงมีคำสั่งลงโทษไล่ผู้อุทธรณ์ออกจากราชการ ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ผู้อุทธรณ์จึงอุทธรณ์คำสั่งลงโทษต่อ ก.พ.ค.

 

คำวินิจฉัย

               ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้กรณีนี้ผู้อุทธรณ์ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า – ออก (PIPO) และไม่มีหน้าที่จับกุมเรือประมงผิดกฎหมาย ทำให้ไม่เป็นความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ราชการ  แต่การกระทำดังกล่าวถือได้ว่ามีความร้ายแรงใกล้เคียงกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ทั้งยังปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้อุทธรณ์ได้ติดตามไปตรวจเรือของนาย ศ. ร่วมกับศูนย์ควบคุมการแจ้งเรือเข้า – ออก (PIPO) โดยอ้างกับผู้บังคับบัญชาว่าทางศูนย์ PIPO ให้ไปร่วมแจก QR CODE อันเป็นการกระทำเพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้อุทธรณ์เป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ออกไปตรวจเรือดังกล่าวด้วย ประกอบกับในขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายซึ่งเป็นปัญหาสำคัญระดับประเทศ การที่ผู้อุทธรณ์ซึ่งเป็นข้าราชการกรมประมง ทั้งยังมีตำแหน่งในระดับสูง ย่อมจะต้องตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่ผู้อุทธรณ์กลับไม่ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว พฤติการณ์ของผู้อุทธรณ์จึงทำให้เสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตน รวมทั้งเป็นเหตุให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง การที่ผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษไล่ผู้อุทธรณ์ออกจากราชการ ชอบด้วยกฎหมายและระดับโทษเหมาะสมแก่กรณีกระทำผิดแล้ว ก.พ.ค. จึงมีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์
วันที่
The website encountered an unexpected error. Please try again later.