ภาพประกอบเนื้อหา
ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนทั้งที่ไปปฏิบัติราชการที่หน่วยงานอื่นแล้ว
เรื่องดำที่ 6120032 เรื่องแดงที่ 0047261
ผลคำวินิจฉัย ยกคำร้องทุกข์
กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
1. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
2. กฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551
3. กฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556
การที่ผู้ถูกสั่งแต่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงมีฐานะเป็นข้าราชการระดับสูงของหน่วยงาน แม้ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่หน่วยงานอื่น แต่ก็ยังคงสังกัดส่วนราชการต้นสังกัดเดิม กรณีจึงย่อมมีผลทำให้บุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสอบสวนเกิดความเกรงใจหรือวิตกกังวลอันอาจทำให้การสอบสวนไม่ได้ข้อเท็จจริงตามที่ต้องการ จึงเข้าลักษณะเป็นเหตุว่าหากให้บุคคลดังกล่าวอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไปอาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ เมื่อการสอบสวนเรื่องดังกล่าวจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว ผู้บังคับบัญชาจึงมีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นออกจากราชการไว้ก่อนได้
ข้อเท็จจริง
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบพบความผิดปกติของการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนของส่วนราชการระดับกรมแห่งหนึ่ง กระทรวงต้นสังกัดจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ซึ่งผลการตรวจสอบน่าเชื่อว่ามีการเบิกจ่ายเงินเป็นเท็จโดยจัดทำเอกสารปลอมโดยข้าราชการในหน่วยงานแห่งนั้น รวมทั้งเห็นว่าอาจเกี่ยวพันกับผู้ร้องทุกข์ซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงต้นสังกัดและข้าราชการอื่นในวงกว้าง กระทรวงต้นสังกัดจึงดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม และระหว่างนั้นได้มีคำสั่งย้ายผู้ร้องทุกข์ไปปฏิบัติราชการที่หน่วยงานสังกัดอื่นโดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม ต่อมาผลการสืบสวนข้อเท็จจริงปรากฏว่ามีมูลอันควรกล่าวหาว่าผู้ร้องทุกข์กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงแก่ผู้ร้องทุกข์และพวก นอกจากนี้ กระทรวงต้นสังกัดได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการถูกแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงกระทบต่อความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของประชาชนต่อการบริหารงานของหน่วยงานเป็นอย่างมาก หากจะให้ผู้ร้องทุกข์อยู่ในราชการต่อไปจะเกิดความเสียหาย และเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็วเพราะมีพยานบุคคลและเอกสารจำนวนมาก จึงมีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ออกจากราชการไว้ก่อน แต่ผู้ร้องทุกข์เห็นว่าตนเองได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการที่หน่วยงานสังกัดอื่นแล้ว จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานของหน่วยงานต้นสังกัด ดังนั้น การที่ผู้ร้องทุกข์ยังอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไปจึงไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารงานของหน่วยงานต้นสังกัดหรือราชการแต่อย่างใด นอกจากนี้ กรณีที่ถูกแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงก็ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาจำนวนมาก ทั้งข้อกล่าวหาในเรื่องนี้ก็ไม่ได้กล่าวหาถึงการปฏิบัติหน้าที่โดยตรงและยังไม่ได้ปรากฏชัดแจ้งว่าผู้ร้องทุกข์เป็นตัวการหรือมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีส่วนร่วมกระทำความผิดจริงตามที่ถูกกล่าวหา การออกคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ออกจากราชการไว้ก่อนจึงไม่เป็นธรรมและไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ร้องทุกข์จึงได้มาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อ ก.พ.ค.
คำวินิจฉัย
ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า การสอบสวนและการไต่สวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้มีผู้ถูกกล่าวหาประมาณ 300 ราย อันจะต้องใช้เวลาค่อนข้างนานจึงจะแล้วเสร็จ การที่ผู้ร้องทุกข์มีฐานะเป็นข้าราชการระดับสูงของหน่วยงาน แม้ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติราชการยังหน่วยงานอื่น แต่ก็ยังคงสังกัดส่วนราชการต้นสังกัดเดิม จึงย่อมมีผลทำให้บุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสอบสวนโดยเฉพาะอย่างยิ่งพยานบุคคลเกิดความเกรงใจหรือวิตกกังวล อันอาจทำให้การสอบสวนไม่ได้ข้อเท็จจริงตามที่ต้องการ ประกอบกับเรื่องนี้สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจติดตามเรื่องนี้ตลอดมา จึงเป็นประเด็นอ่อนไหวที่อาจมีผลกระทบต่อความเชื่อถือและศรัทธาต่อการดำเนินการของหน่วยงานต้นสังกัด หากผู้ร้องทุกข์ยังคงอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่หน่วยงานต้นสังกัดและระบบราชการได้ ดังนั้น การที่กระทรวงต้นสังกัดมีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ประกอบกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 จึงเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องแล้ว คำร้องทุกข์ฟังไม่ขึ้น ก.พ.ค. จึงวินิจฉัยให้ยกคำร้องทุกข์
วันที่