ภาพประกอบเนื้อหา
ละทิ้งหน้าที่ราชการเพราะหลบหนีคดีอาญา
ครั้งนี้ “ก.พ.ค. ขอบอก” ขอเสนอเรื่องราวความผิดวินัยวินัยอย่างร้ายแรงกรณีละทิ้งหน้าที่ราชการเกินสิบห้าวันโดยไม่มีเหตุอันสมควร โดยองค์ประกอบในการพิจารณาวินิจฉัยที่สำคัญสำหรับกรณีความผิดฐานนี้ประการหนึ่งคือ การขาดราชการไปติดต่อเกิน 15 วันนั้น มีเหตุอันสมควร หรือไม่ ซึ่งท่านผู้อ่านที่ติดตาม ก.พ.ค. ขอบอก คงจะเคยได้รับทราบถึงอุทาหรณ์เกี่ยวกับข้าราชการพลเรือนสามัญที่ถูกลงโทษทางวินัยในความผิดฐานนี้มาหลายกรณีแล้ว โดยเหตุผลที่ผู้อุทธรณ์มักจะหยิบยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการไม่มาปฏิบัติราชการก็มีหลายประการ เช่น เจ็บป่วย หรือเหตุผลส่วนตัวอื่น ๆ ซึ่ง ก.พ.ค. ก็ได้พิจารณาในแต่ละกรณีให้น้ำหนักกับข้ออ้างต่าง ๆ ว่าเป็นเหตุอันสมควรที่ทำให้ต้องละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อเกิน 15 วัน หรือไม่ ครั้งนี้ ก.พ.ค. ขอบอก จะขอนำเสนอในส่วนของการพิจารณาวินิจฉัยเหตุอันสมควรอีกแง่มุมหนึ่งที่มีการหยิบยกมาเป็นข้ออ้าง ซึ่ง ก.พ.ค. ได้วินิจฉัยในเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ เพื่อให้เพื่อนข้าราชการทั้งหลายได้ทราบดังต่อไปนี้
เรื่องมีอยู่ว่า นาง ก. รับราชการตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดินชำนาญงาน ไม่มาปฏิบัติราชการเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่ยื่นใบลาและไม่แจ้งเหตุผลให้ผู้บังคับบัญชาทราบเลย หน่วยงานต้นสังกัดจึงได้มีคำสั่งลงโทษไล่นาง ก. ออกจากราชการ ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร นาง ก. จึงได้มาอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค. โดยยอมรับว่าไม่มาปฏิบัติราชการจริง แต่อ้างว่าเหตุที่ไม่มาปฏิบัติราชการเป็นเพราะถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกในคดีอาญาเป็นเวลา 2 เดือน นาง ก. จึงยื่นฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไม่รับฎีกาและได้แจ้งไปยังนายประกันเพื่อให้นำตัวนาง ก. ไปยังศาล เพื่อบังคับคดีตามผลคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ นาง ก. ตกใจกลัวที่จะต้องถูกจำคุกในเรือนจำและรู้สึกอับอายเพื่อนร่วมงานทั้งยังมีบุตรที่จะต้องดูแล จึงไม่ไปแสดงตัวต่อศาล จึงเป็นเหตุให้นาง ก. ไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ โดยหากมาทำงาน นาง ก. ก็ต้องถูกจับกุมไปดำเนินคดีอันทำให้ต้องขาดราชการอยู่ดี นาง ก. จึงไม่มีเจตนาที่จะละทิ้งหน้าที่ราชการ ทั้งในช่วงเวลาที่นาง ก. ได้ละทิ้งหน้าที่ราชการไปนั้น งานในหน้าที่รับผิดชอบก็ไม่เสียหายแต่อย่างใด เพราะนาง ก. ได้แจ้งให้เพื่อนร่วมงานในกลุ่มงานเดียวกันรับทราบด้วยวาจาแล้วว่า นาง ก. มีงานอะไรบ้างที่อยู่ในความรับผิดชอบและดำเนินการไปแล้วขั้นตอนใด จึงไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ แก่ทางราชการ
ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า นาง ก. ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน จริง ส่วนที่อ้างว่าไม่มาปฏิบัติราชการเพราะหลบหนีการต้องถูกจับกุมเพื่อบังคับคดีตามผลคำพิพากษาคดีอาญา นั้น ก.พ.ค. เห็นว่า เหตุดังกล่าวยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุอันสมควรที่จะไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวจึงไม่อาจยกขึ้นมาอ้างว่า นาง ก.ไม่มีเจตนาในการละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเกินกว่าสิบห้าวัน โดยไม่มีเหตุอันสมควรได้ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาประกอบกับการที่นาง ก. รับราชการมาเป็นเวลานาน ขณะเกิดเหตุดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดินชำนาญงาน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สูง จึงย่อมต้องทราบว่าข้าราชการมีหน้าที่สำคัญคือการมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ และการขาดราชการไปโดยไม่ได้ขออนุญาตลาต่อผู้บังคับบัญชา หรือโดยไม่แจ้งเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เป็นการไม่ถูกต้อง อันจะเข้าลักษณะเป็นการละทิ้งหน้าที่ราชการ และหากละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร ก็อาจเป็นความผิดวินัยได้ ซึ่งในเรื่องนี้ก็ได้ความจากถ้อยคำของนาง ก. ที่ได้ให้ไว้ในชั้นสืบสวนข้อเท็จจริงว่า นาง ก. ทราบว่าการขาดราชการเกินกว่า 15 วัน ถือเป็นความผิดวินัย จึงถือได้ว่านาง ก. จงใจละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร ส่วนที่นาง ก. กล่าวอ้างว่า งานในหน้าที่ความรับผิดชอบมิได้เสียหายแต่อย่างใด นั้น ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า เหตุที่งานในหน้าที่รับผิดชอบของนาง ก. ไม่เสียหายก็เป็นเพราะผู้บังคับบัญชาชั้นต้นของนาง ก. ได้จัดการแบ่งมอบงานให้เจ้าหน้าที่ผู้อื่นทำแทนแล้ว มิใช่เกิดจากการที่นาง ก. ได้แจ้งรายละเอียดงานในความรับผิดชอบของตนให้เพื่อนร่วมงานในกลุ่มงานรับทราบแต่อย่างใด ดังนั้น พฤติการณ์ของนาง ก. จึงเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกินกว่า 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร อุทธรณ์ของนาง ก. ในส่วนนี้จึงฟังไม่ขึ้น
หวังว่าเรื่องที่หยิบยกมานี้ คงเป็นอุทาหรณ์ให้เพื่อนข้าราชการเข้าใจได้ว่า ข้าราชการต้องอุทิศเวลาให้แก่ราชการ และปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความตั้งใจ อุตสาหะ และเอาใจใส่ หากมีความจำเป็นที่จะไม่มาปฏิบัติราชการในคราใดก็ต้องขออนุญาตลาการปฏิบัติราชการต่อผู้บังคับบัญชาให้ถูกต้องตามระเบียบของทางราชการต่อไป มิเช่นนั้นก็อาจกลายเป็นผู้กระทำความผิดวินัยเหมือนอย่างผู้อุทธรณ์ในกรณีนี้ นะ..ขอบอก…
วันที่