ภาพประกอบเนื้อหา
เทศกาลกับวินัย
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แห่งความสุขสนุกหรรษาของพวกเราชาวไทยอีกครั้ง เนื่องจากเป็นเทศกาล “ตรุษสงกรานต์” ซึ่งถือเป็นวันสิ้นปีเก่าขึ้นปีใหม่ของคนไทย ที่ยึดถือสืบเนื่องเป็นประเพณีมาแต่โบราณกาล โดยถือวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ คือ ในวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งจะตรงกับวันที่ ๑๓ เมษายน ทางสุริยคติ และถือเอาวันที่ ๑๓, ๑๔, ๑๕ เมษายนของทุกปี เป็นเทศกาลสงกรานต์ โดยจะมีการทำบุญและมีการละเล่นสนุกสนานรื่นเริงกัน “ก.พ.ค. ขอบอก” ในวันนี้จึงขอพักเรื่องหนักๆ ทางวิชาการ แต่จะขอมาย้ำเตือนสติของเพื่อนข้าราชการทั้งหลายแทนด้วยความห่วงใย เนื่องด้วยความสนุกของเทศกาลอาจทำให้ท่านพลั้งเผลอและพลาดไปทำในสิ่งที่จะทำให้เกิดความทุกข์ใจแก่ท่านได้ในภายหลัง โดยไม่รู้ตัว เพราะ “สุรา”
“สุรา” มักจะเป็นของที่คู่กับเทศกาลเสมอ หลายปีที่ผ่านมานี้ รัฐบาลต่างก็รณรงค์เรื่องเมาไม่ขับ จนเปลี่ยนมาเป็น “ดื่มไม่ขับ” ในปัจจุบันเพื่อลดอุบัติเหตุในท้องถนน เพราะวันหยุดยาวเช่นนี้ คนส่วนใหญ่มักเดินทางกลับมาตุภูมิ เพื่อร่วมทำบุญ ร่วมกิจกรรม และอาจถือโอกาสไปท่องเที่ยว อุบัติเหตุในท้องถนนจึงมีอัตราที่สูงกว่าปกติ โดยสาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือการดื่มสุราอันทำให้เกิดความคึกคะนองและขาดสติ นอกจากนี้ “สุรา” อาจทำให้ท่านขาดความยับยั้งชั่งใจในเรื่องต่างๆ ได้ง่าย เช่น ได้ยินใครพูดอะไรไม่เข้าหู หรือเกิดกระทบกระทั่งชนไหล่เหยียบเท้ากันขึ้นมา ก็อาจมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งจนหลายกรณีบานปลายไปถึงใช้อาวุธทำร้าย หรือเข่นฆ่ากัน อีกทั้ง การสาดน้ำเล่นสงกรานต์ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดฮิตที่ต้องมีการ “ประแป้ง” ร่วมด้วยแล้ว ก็อาจขาดการระงับอารมณ์เข้าไปสาดน้ำประแป้งสาวๆ ที่นุ่งน้อยห่มน้อย โดยมีกิริยาท่าทางและการกระทำที่ไม่เหมาะสมดังจะเห็นได้จากภาพข่าวที่ผ่านมา
ดังนั้น หากท่านทั้งหลายที่ตกเป็นข่าวเหล่านั้นเป็นข้าราชการแล้ว นอกจากความสูญเสียชื่อเสียง ร่างกาย หรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุก็ดี จากการประทุษร้ายหรือบานปลายเป็นการฆาตกรรมก็ดี จากการข่มขืนหรืออนาจารก็ดีแล้ว วินัยก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะตามเข้ามารบกวนจิตใจท่าน เพราะศักดิ์ศรีความเป็นข้าราชการของท่านย่อมติดตัวท่านไปตลอด ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดเทศกาลหรือไม่ หากมีพฤติการณ์ที่ส่งผลไปกระทบกับความเชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนแล้ว ก็เข้าข่ายเป็นความผิดวินัยได้ โดยไม่จำต้องเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ได้แต่อย่างใด นะ ขอบอก
(ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน คอลัมน์ "ก.พ.ค. ขอบอก" ฉบับวันอังคารที่ 12 เมษายน 2559)
วันที่