Skip to main content
x

คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยฐานอื่นที่มิใช่ความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาต้องสอบสวนทางวินัยก่อน จึงจะลงโทษผู้ถูกกล่าวหาได้

 

เรื่องดำที่  6110230  เรื่องแดงที่  0064163
ผลคำวินิจฉัย  อุทธรณ์ฟังขึ้น
การดำเนินการทางวินัย  ดำเนินการตามมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

 

                        ผู้บังคับบัญชาไม่ผูกพันตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ชี้มูลความผิดวินัยฐานอื่นที่มิใช่ความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ และไม่สามารถนำรายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงและความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มาเป็นสำนวนการสอบสวนทางวินัย ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ดังนั้น ผู้บังคับบัญชาจึงต้องสอบสวนทางวินัยก่อน จึงจะลงโทษผู้ถูกกล่าวหาได้

 

ข้อเท็จจริง
                   ผู้อุทธรณ์เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผน 3 องค์การบริหารส่วนตำบลยกกระบัตร จังหวัดตาก ได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุในโครงการก่อสร้างบ่อบาดาลในบริเวณตำบลยกกระบัตร ซึ่งปรากฏจากการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าการก่อสร้างโครงการดังกล่าวไม่เป็นไปตามที่ทางราชการกำหนด คือ ตามแบบบ่อบาดาลต้องมีความลึก 42 เมตร แต่ทำการขุดเจาะเพียง 12 เมตร และความหนาของท่อ PVC ไม่ได้ตามแบบ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณามีมติว่าการกระทำของผู้อุทธรณ์มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง สำนักงาน ป.ป.ช. จึงแจ้งมติดังกล่าวไปยังกรมการปกครองซึ่งเป็นหน่วยงานที่ผู้อุทธรณ์สังกัดอยู่ในปัจจุบันเพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
                   อธิบดีกรมการปกครอง โดยมติ อ.ก.พ. กรมการปกครอง ได้มีคำสั่งลงโทษปลดผู้อุทธรณ์ออกจากราชการ ผู้อุทธรณ์จึงอุทธรณ์คำสั่งลงโทษดังกล่าวต่อ ก.พ.ค.
 
คำวินิจฉัย
                   ก.พ.ค. เสียงข้างมาก พิจารณาแล้วเห็นว่า ในเรื่องอำนาจการชี้มูลความผิดทางวินัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น ศาลปกครองสูงสุดซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจพิจารณาคดีปกครอง ตามมาตรา 197 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดง ที่ ฟบ. 13/2562 วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562 และ คดีหมายเลขแดงที่ ฟบ. 14/2562 วันที่ 11 พฤศจิกายน 2562  ได้มีการพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจในการชี้มูลความผิดทางวินัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. สรุปสาระสำคัญได้ว่า กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้ชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรมอยู่ก่อนแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิดทางวินัยในความผิดวินัยฐานอื่นด้วย เมื่อปรากฏว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติว่า การกระทำของผู้อุทธรณ์มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามข้อ 6 วรรคสอง ของประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล จังหวัดตาก เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2544 โดยไม่ได้ชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ดังนั้น การที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดวินัยดังกล่าวจึงเป็นกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่มีอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ย่อมไม่ผูกพันผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 ของผู้ถูกกล่าวหา และผู้บังคับบัญชาจะถือเอารายงานการไต่สวนข้อเท็จจริงและความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. มาเป็นสำนวนการสอบสวนทางวินัยของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ไม่ได้ การที่คู่กรณีในอุทธรณ์มีคำสั่งลงโทษปลดผู้อุทธรณ์ออกจากราชการ ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดโดยมิได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงขึ้นทำการสอบสวนผู้อุทธรณ์ก่อน จึงเป็นการดำเนินการทางวินัยผู้อุทธรณ์ไม่ถูกต้องในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 คำสั่งลงโทษดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย วินิจฉัยให้คู่กรณีในอุทธรณ์ยกเลิกคำสั่งลงโทษปลดผู้อุทธรณ์ออกจากราชการ และให้ดำเนินการทางวินัยผู้อุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องต่อไป

 

วันที่