Skip to main content
x

 

การใช้ดุลพินิจในการลงโทษทางวินัยต้องเหมาะสมกับกรณีความผิด

 

เรื่องดำที่     6110023    เรื่องแดงที่    0091162
ผลคำวินิจฉัย    ลดโทษ
การดำเนินการทางวินัย    ต้นสังกัดดำเนินการเอง
 
                    การใช้ดุลพินิจกำหนดโทษทางวินัยจะต้องเป็นไปเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หรือเจตนารมณ์ของกฎหมายและด้วยความเหมาะสมกับความผิด โดยพิจารณาข้อเท็จจริงของพฤติการณ์ของผู้ถูกลงโทษ เจตนาของการกระทำ และความเสียหายที่เกิดขึ้นว่าเป็นผลโดยตรงจากการกระทำความผิดหรือไม่ เพื่อให้เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้ที่ถูกลงโทษ เมื่อผู้อุทธรณ์ได้รับมอบหมายให้ควบคุมงานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอ จำนวน 2 สัญญา รวม 18 อำเภอ ซึ่งอยู่ต่างอำเภอและต่างจังหวัด เป็นการได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ทับซ้อนกันในช่วงเวลาเดียวกัน การควบคุมงานจึงทำได้ไม่ทั่วถึงและเกิดข้อบกพร่อง อีกทั้งในการควบคุมงานดังกล่าวไม่มีการมอบหมายงานหรือแบ่งหน้าที่ให้ผู้อุทธรณ์ไปควบคุมงานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอแห่งใด อย่างไร รวมทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้อุทธรณ์มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการควบคุมงานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอที่เกิดข้อบกพร่องอย่างไร แต่ปรากฏว่าหัวหน้าผู้ควบคุมงานได้ลงลายมือชื่อในบันทึกการควบคุมงานดังกล่าวเพียงคนเดียว จึงเห็นว่าหัวหน้าผู้ควบคุมงานเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่าผู้อุทธรณ์ การที่ผู้อุทธรณ์ได้รับโทษเท่ากับหัวหน้าผู้ควบคุมงานย่อมเป็นการไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรมแก่ผู้อุทธรณ์

 

ข้อเท็จจริง

                    กรมพลศึกษาได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจ้างก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอ ได้แก่ คณะกรรมการดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ คณะกรรมการตรวจการจ้าง และผู้ควบคุมงาน ซึ่งผู้ควบคุมงาน มีนาย ด. วิศวกรโยธาชำนาญการ เป็นหัวหน้าผู้ควบคุมงาน นาย ท. นายช่างเขียนแบบชำนาญงาน นาย ข. สถาปนิกปฏิบัติการ และผู้อุทธรณ์ ซึ่งผู้อุทธรณ์เป็นนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอ จำนวน 2 สัญญา รวม 18 อำเภอ ซึ่งอยู่ต่างอำเภอและต่างจังหวัด โดยแต่ละสนามกีฬาประกอบด้วย (1) สนามฟุตบอลพร้อมลู่วิ่ง 8 ลู่ 1 สนาม (2) อัฒจันทร์คอนกรีต 1 หลัง (3) โรงยิมอเนกประสงค์ 1 หลัง (4) ลานกีฬาอเนกประสงค์ ขนาด 30 X 50 เมตร (5) ลานกีฬาอเนกประสงค์ขนาด 20 X 40 เมตร 1 สนาม ซึ่งการก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอแห่งหนึ่ง คณะกรรมการตรวจการจ้างได้ตรวจรับงาน (งวดสุดท้าย) และกรมพลศึกษาได้อนุมัติจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างแล้ว ต่อมาสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ไปตรวจสอบสนามกีฬาอำเภอดังกล่าวพบว่า ผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญาและมาตรฐานทางวิศวกรรมในส่วนของโรงยิมอเนกประสงค์ และลานกีฬาอเนกประสงค์ อธิบดีกรมพลศึกษาจึงสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้สืบสวนข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า การก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอดังกล่าวไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการและข้อกำหนดในสัญญา อธิบดีกรมพลศึกษาจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่คณะกรรมการตรวจการจ้างและผู้ควบคุมงาน
                    ผลการสอบสวน คณะกรรมการสอบสวนเห็นว่า กรณีโรงยิมอเนกประสงค์พบว่า ผู้รับจ้างดําเนินการก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญาและมาตรฐานทางวิศวกรรม และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จปรากฏว่าโรงยิมอเนกประสงค์เกิดการทรุดตัวและส่งผลต่อเนื่องให้พื้นโรงยิมอเนกประสงค์แตกเป็นร่องกว้าง ซึ่งต่อมาผู้รับจ้างได้เข้าแก้ไขโดยดําเนินการตอกเสาเข็มในส่วนฐานรากเพิ่มเติม ตอกเสาเข็มปูพรมและหล่อพื้นใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาการทรุดตัว คณะกรรมการสอบสวนจึงเห็นว่า การทรุดตัวของพื้นไม้โรงยิมอเนกประสงค์เกิดจากการตอกเสาเข็มและงานฐานรากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งผู้รับจ้างได้เข้าดำเนินการแก้ไขแล้ว ถือว่าทางราชการได้รับความเสียหาย แต่ไม่ร้ายแรง โดยอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ควบคุมงาน ซึ่งขาดความรอบคอบ และคณะกรรมการตรวจการจ้างที่ได้ตรวจรับงานโดยขาดความละเอียดรอบคอบก่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ จึงเป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ตามมาตรา 82 (2) มาตรา 83 (4) และมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 เห็นควรลงโทษลดเงินเดือนในอัตราร้อยละ 2 แก่คณะกรรมการตรวจการจ้าง ส่วนผู้ควบคุมงานซึ่งมีผู้อุทธรณ์รวมอยู่ด้วย เห็นควรลงโทษลดเงินเดือนในอัตราร้อยละ 4 อธิบดีกรมพลศึกษาเห็นชอบด้วยกับความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนจึงได้มีคำสั่งลงโทษคณะกรรมการตรวจการจ้างและผู้ควบคุมงาน ผู้อุทธรณ์จึงได้อุทธรณ์คำสั่งต่อ ก.พ.ค.

 

คำวินิจฉัย

                    ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้อุทธรณ์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ควบคุมงานตามสัญญาก่อสร้างสนามกีฬาระดับอำเภอ จำนวน 2 สัญญา รวมทั้งสิ้น 18 อำเภอ ปรากฏว่างานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอดังกล่าวนั้น ผู้อุทธรณ์ไม่ได้ตรวจสอบและควบคุมงานก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและข้อกำหนดในสัญญา รวมทั้งมาตรฐานทางวิศวกรรม โดยเฉพาะกรณีโรงยิมอเนกประสงค์ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จโรงยิมอเนกประสงค์เกิดการทรุดตัวและส่งผลให้พื้นแตกเป็นร่องกว้าง และพื้นสนามกีฬาในร่มภายในโรงยิมอเนกประสงค์ ตามสัญญากำหนดให้เป็นพื้นโพลียูรีเทนยางสังเคราะห์ มีความหนา 5 มิลลิเมตร แต่จากการตรวจสอบพบว่า พื้นโพลียูรีเทนยางสังเคราะห์มีความหนาประมาณ 2.5 มิลลิเมตร ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญา อย่างไรก็ตาม พื้นที่ก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอดังกล่าวสภาพโดยทั่วไปของพื้นที่เป็นท้องนา ประชาชนในพื้นที่ใช้ทำนาโดยตลอด สภาพพื้นที่มีน้ำท่วมถึงแทบจะตลอดทั้งปี โครงสร้างของพื้นดินเป็นดินอ่อน การก่อสร้างโดยเฉพาะโครงสร้างฐานรากจึงอาจประสบปัญหาเรื่องความมั่นคงแข็งแรงได้ แม้ว่าคณะกรรมการตรวจการจ้าง และผู้ควบคุมงานได้ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาแล้วก็ตาม ปัญหาก็อาจเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อปัญหาเกิดขึ้น ผู้รับจ้างก็ได้พยายามให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาตลอดมา เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และเพื่อให้เยาวชนและประชาชนโดยทั่วไปได้ใช้ประโยชน์จากสนามกีฬาอย่างแท้จริง ซึ่งต่อมาผู้รับจ้างก็ได้เข้าแก้ไขโดยดำเนินการตอกเสาเข็มในส่วนฐานรากเพิ่มเติม ตอกเสาเข็มปูพรมและหล่อพื้นใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาการทรุดตัวแล้ว ดังนั้น การที่ผู้อุทธรณ์ไม่ได้ตรวจสอบและควบคุมงานด้วยความละเอียดรอบคอบเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยขาดความระมัดระวัง และไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทำให้การดำเนินงานของผู้รับจ้างไม่ถูกต้องครบถ้วนตามแบบและข้อกำหนดในสัญญา รวมถึงมาตรฐานทางวิศวกรรม เกิดความชำรุดบกพร่องของงานและไม่อาจใช้ประโยชน์ได้ ทำให้ราชการเกิดความเสียหาย แต่ไม่ร้ายแรง พฤติการณ์ของผู้อุทธรณ์จึงเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติของคณะรัฐมนตรี นโยบายทางรัฐบาล และระเบียบแบบแผนของทางราชการ และฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ตามมาตรา 82 (2) และมาตรา 83 (4) ประกอบมาตรา 84 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ส่วนระดับโทษนั้น เห็นว่า การกระทำของผู้อุทธรณ์เป็นเหตุให้ทางราชการเสียหายแต่ไม่ร้ายแรง และโดยที่ผู้อุทธรณ์ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมงานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอ จำนวน 2 สัญญา รวม 18 อำเภอ ซึ่งอยู่ต่างอำเภอและต่างจังหวัด เป็นการได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ทับซ้อนกันในช่วงเวลาเดียวกัน การควบคุมงานจึงทำได้ไม่ทั่วถึงและเกิดข้อบกพร่อง ซึ่งผู้รับจ้างก็ได้ดำเนินการแก้ไขแล้ว และข้อเท็จจริงตามทางการสอบสวนไม่ปรากฏว่า ในการควบคุมงานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอดังกล่าวได้มีการมอบหมายงานหรือแบ่งหน้าที่ให้ผู้ควบคุมงานทั้ง 4 คน ดูแลควบคุมงานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอแห่งใด อย่างไร รวมทั้งไม่ปรากฏหลักฐานว่าผู้อุทธรณ์ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการควบคุมงานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอดังกล่าวอย่างไร แต่ปรากฏข้อเท็จจริงในบันทึกการควบคุมงานก่อสร้างสนามกีฬาอำเภอดังกล่าวว่า นาย ด. วิศวกรโยธาชำนาญการ ได้ลงลายมือชื่อในบันทึกดังกล่าวเพียงคนเดียว จึงเห็นว่า นาย ด. ควรเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ประกอบกับนาย ด. เป็นหัวหน้าผู้ควบคุมงานอีกด้วย ดังนั้น การที่ผู้อุทธรณ์ได้รับโทษเท่ากับนาย ด. ย่อมเป็นการไม่เหมาะสม จึงมีคำวินิจฉัยให้ลดโทษผู้อุทธรณ์ โดยให้ยกเลิกคำสั่งลงโทษลดเงินเดือนผู้อุทธรณ์ในอัตราร้อยละ 4 และให้ลงโทษตัดเงินเดือนผู้อุทธรณ์ในอัตราร้อยละ 4 เป็นเวลาสองเดือนให้เป็นการถูกต้องต่อไป
 
วันที่