Skip to main content
x
 

ดุลพินิจในการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

 
เรื่องดำที่ 6120071    เรื่องแดงที่ 0027262
ผลคำวินิจฉัย ยกคำร้องทุกข์
กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
  1. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
  2. กฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556
 
         การสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนหรือพิจารณา หรือผลแห่งคดี เป็นดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาที่จะทำได้หากข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติว่าพฤติการณ์ของข้าราชการที่จะถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนครบเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อผู้ร้องทุกข์ถูกฟ้องคดีอาญาซึ่งมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และถูกควบคุมหรือขังโดยเป็นผู้ถูกจับในคดีอาญาเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่า 15 วัน กรณีจึงอยู่ในเงื่อนไขที่ผู้บังคับบัญชาจะสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลแห่งคดีได้
 
ข้อเท็จจริง
         เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามได้เข้าจับกุมผู้ร้องทุกข์ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีเมื่อดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงาน ก. มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำและลงนามในเอกสารการขออนุมัติและเบิกจ่ายงบประมาณโดยมิชอบ และพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ร้องทุกข์ไปฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2561 ถึงวันที่ 6 กันยายน 2561 ต่อมาผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องทุกข์ได้มีหนังสือถึงกองบังคับการปราบปรามขอทราบพฤติการณ์การกระทำความผิดและการจับกุมตัวผู้ร้องทุกข์ ซึ่งกองบังคับการปราบปรามได้มีหนังสือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับพฤติการณ์เกี่ยวกับคดีของผู้ร้องทุกข์ไปยังผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องทุกข์ว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ร้องทุกข์ กรณีต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา ทุจริตเบิกจ่ายเงินงบประมาณเพื่อทราบแล้ว ซึ่งผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องทุกข์พิจารณาแล้วจึงได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลแห่งคดีโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 ผู้ร้องทุกข์จึงได้ร้องทุกข์ขอให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว

 

คำวินิจฉัย
         ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องนี้เป็นกรณีข้าราชการพลเรือนสามัญถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเนื่องจากต้องหาว่ากระทำความผิดอาญา อันมิได้เป็นความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษที่ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุตามมาตรา 57 มีอำนาจสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลแห่งคดีได้ ตามมาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 โดยปรากฏว่าในการออกคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ออกจากราชการไว้ก่อน ผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องทุกข์ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกองบังคับการปราบปราม พร้อมเอกสารประกอบ จนปรากฏข้อเท็จจริงแล้วว่า ผู้ร้องทุกข์ถูกจับกุมในกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา และไม่ใช่กรณีความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และตามข้อเท็จจริงผู้ร้องทุกข์ได้ถูกควบคุมหรือขังเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่า 15 วัน แล้ว ซึ่งผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องทุกข์มีอำนาจสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลแห่งคดีได้ และในการนี้ผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องทุกข์ได้พิจารณาดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 101 ประกอบกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 ข้อ 78 และข้อ 83 ก่อนมีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ออกจากราชการไว้ก่อน การที่ผู้บังคับบัญชาของผู้ร้องทุกข์ได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ออกจากราชการไว้ก่อน จึงเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และมีเหตุผลอันสมควรแล้ว ก.พ.ค. จึงมีคำวินิจฉัยให้ยกคำร้องทุกข์
 
วันที่