เปล่าเรียกนะ..... เค้าให้เอง .....

               วันนี้  “ก.พ.ค. ขอบอก” ขอเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่มีการรับสิ่งตอบแทนจากการทำงานนั้นๆ เนื่องจากผู้ให้เห็นความยากลำบากในการทำงานจึงสมัครใจที่จะหยิบยื่นสิ่งตอบแทนให้เป็นสินน้ำใจ แล้วการรับสินน้ำใจเหล่านี้จะเป็นความผิดอะไรหรือไม่นั้น ลองมาติดตามเรื่องราวของผู้อุทธรณ์รายนี้...ดูนะคะ

               ผู้อุทธรณ์รายนี้เป็นนายช่างสำรวจอาวุโส มีหน้าที่รังวัดที่ราชพัสดุ ได้ดำเนินการรังวัดที่ราชพัสดุ จำนวน 20 แปลง ตามที่ผู้เช่าที่ราชพัสดุได้ยื่นคำร้องขอโอนสิทธิการเช่าต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อมาผู้เช่าดังกล่าวได้มาร้องเรียนว่า ผู้อุทธรณ์มารังวัดที่ดินพร้อมเก็บค่ารังวัดแปลงละ 500 บาท จึงเป็นที่มาให้มีการสืบสวนและสอบสวนวินัยผู้อุทธรณ์ในกรณีนี้

               ผลการสอบสวนปรากฏว่า ผู้เช่าเห็นว่าสภาพพื้นที่ในการรังวัดเป็นป่ารกทึบ ยากแก่การรังวัด จำเป็นต้องจ้างคนมาถากถางและช่วยรังวัด อีกทั้งผู้อุทธรณ์ได้ทำการรังวัดนอกเวลาราชการ ผู้เช่าจึงได้ให้เงินกับผู้อุทธรณ์ด้วยความสมัครใจเป็นจำนวน 2 ครั้ง รวม 5,500 บาท กรณีนี้ต้นสังกัดเห็นว่า แม้ผู้อุทธรณ์จะไม่ได้เรียกร้องค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ราชพัสดุ และได้ใช้เงินเพื่อเป็น  ค่าใช้จ่ายในการจ้างคนงานและค่าน้ำมันรถในการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการที่ไม่สามารถเบิกจ่ายจากต้นสังกัดได้ก็ตาม แต่ผู้อุทธรณ์ก็ยินยอมรับเงินจากผู้เช่าเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ในการรังวัดที่ราชพัสดุ ดังนั้น พฤติการณ์จึงเป็นการอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น เห็นควรลงโทษลดเงินเดือนผู้อุทธรณ์ในอัตราร้อยละ 2 ผู้อุทธรณ์จึงได้อุทธรณ์เรื่องนี้ต่อ ก.พ.ค.

               ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้อุทธรณ์ยอมรับว่า ได้รับเงินจากผู้เช่าและนำมาจ้างคนงานและจ่ายค่าน้ำมันรถ ทั้งๆ ที่ ผู้อุทธรณ์ทราบดีอยู่แล้วว่า ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ต้องทำการขอเบิกค่าใช้จ่ายตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2550 และเป็นดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาในการพิจารณาอนุมัติ ผู้อุทธรณ์ไม่มีอำนาจรับเงินจากผู้เช่าได้ ดังนั้น การที่ต้นสังกัดลงโทษลดเงินเดือนผู้อุทธรณ์ในอัตราร้อยละ 2 จึงเป็นการถูกต้องและเหมาะสมกับกรณีความผิดแล้ว อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น

               กรณีนี้จึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจเพื่อนข้าราชการทั้งหลายให้พึงระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่แม้ว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาแล้ว หากไปเผลอใจรับสินน้ำใจในการทำงานนั้นๆ ก็อาจถูกลงโทษทางวินัยได้นะ..ขอบอก...

ผู้เขียน : จารุวรรณ คุณธรณ์

(ตีพิมพ์ในจุลสาร "ก.พ.ค. News" ปีที่ 3 ฉบับที่ 1 ตุลาคม 2562 - มกราคม 2563)