Skip to main content
x

 

ทบทวนอีกครั้ง

 

เรื่องดำที่  5810068   เรื่องแดงที่  0077161
ผลคำวินิจฉัย    ยกอุทธรณ์
การดำเนินการทางวินัย    ต้นสังกัดดำเนินการเอง 
 
              ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาจะทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการ ก็ควรที่จะเสนอความเห็นเป็นหนังสือเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนอีกครั้ง มิฉะนั้นแล้วจะนำมาอ้างว่าปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา เพื่อให้พ้นจากการกระทำผิดวินัยไม่ได้
 

ข้อเท็จจริง

               ผู้อุทธรณ์ดำรงตำแหน่งเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญการ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ปฏิบัติงานในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารด้านการเงินและบัญชี มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงานการเงิน การบัญชี ได้ดำเนินการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการบำนาญ 3 ราย โดยเขียนข้อความในกระดาษขนาดเอ 4 เกี่ยวกับเงินค่ารักษาพยาบาล รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 187,574 บาท โดยที่ข้าราชการบำนาญทั้ง 3 ราย ไม่ได้ใช้สิทธิหรือนำหลักฐานการรับเงินที่สถานพยาบาลซึ่งตนเองหรือบุคคลในครอบครัวเข้ารับการรักษาพยาบาลออกให้ยื่นต่อสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแต่อย่างใด จากนั้นผู้อุทธรณ์ได้มาแจ้งให้นางสาว จ. บันทึกรายการขอเบิกในระบบ GFMIS ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เมื่อนางสาว จ. ได้รับการแจ้งและรับกระดาษขนาดเอ 4 ที่มีรายการขอเบิกค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการบำนาญ 3 ราย จากผู้อุทธรณ์แล้วได้ตรวจดูเห็นว่า การขอเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลตามรายการที่ผู้อุทธรณ์แจ้งมานั้นมีเงินเป็นจำนวนมาก นางสาว จ. จึงได้สอบถามผู้อุทธรณ์ถึงที่มาของการเบิกค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการบำนาญทั้ง 3 ราย ผู้อุทธรณ์แจ้งว่าได้เก็บใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการบำนาญทั้ง 3 ราย ไว้เป็นจำนวนมากและใกล้หมดอายุการเบิกในปีงบประมาณและได้เขียนเหตุของการเบิกไว้ในกระดาษฉบับเดียวกันแล้ว นางสาว จ. จึงได้นำข้อมูลการขอเบิกค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการบำนาญทั้ง 3 ราย ดังกล่าว บันทึกรายการขอเบิกในระบบ GFMIS ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ต่อมา นางสาว จ. ได้พิมพ์รายงานการขอเบิกเงินคงคลัง/ขบ 02 – ขอเบิกงบประมาณที่ไม่อ้างอิงใบสั่งซื้อในระบบ GFMIS แล้วส่งมอบให้กับผู้อุทธรณ์เพื่อดำเนินการเบิกค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการบำนาญต่อไป หลังจากที่ผู้อุทธรณ์ได้รับเอกสารแล้ว ได้นำเอกสารดังกล่าวไปเสนอนาย ภ. พิจารณาอนุมัติการเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลและลงนามในรายงานการขอเบิกเงินคงคลัง/ขบ 02 – ขอเบิกงบประมาณที่ไม่อ้างอิงใบสั่งซื้อในระบบ GFMIS โดยไม่มีใบสำคัญขอเบิก ต่อมา นางสาว จ. ตรวจสอบข้อมูลในระบบ GFMIS และทราบว่าสำนักงานคลังจังหวัดได้ดำเนินการปลดบล็อกอนุมัติรายการขอเบิกของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด และธนาคารสั่งจ่ายผ่านระบบธนาคารแห่งประเทศไทยโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดตามยอดที่กรมบัญชีกลางอนุมัติรายการขอเบิกแล้ว นางสาว จ. ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้ผู้อุทธรณ์ทราบ เมื่อผู้อุทธรณ์ได้ทราบแล้ว ได้เขียนเช็คสั่งจ่ายในชื่อ “สำนักงานประกันสังคมจังหวัด” เป็นเงินจำนวน 162,504 บาท และสั่งจ่ายในชื่อ “ผู้อุทธรณ์” เป็นเงินจำนวน 25,070 บาท รวมจำนวนเงินตามเช็คทั้งสองฉบับ เป็นเงินทั้งสิ้น 187,574 บาท แล้วผู้อุทธรณ์ได้นำเช็คทั้งสองฉบับ เสนอให้นาย ภ. พิจารณาลงนามสั่งจ่ายเช็คโดยไม่มีหลักฐานใบสำคัญรวมทั้งหลักฐานเพื่อเปรียบเทียบกับเช็คที่รอการสั่งจ่ายว่าถูกต้องตรงกันหรือไม่
 

คำวินิจฉัย

               ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลต้องดำเนินการโดยมีเอกสารแนบเรื่องตามที่ระเบียบกำหนด แต่กรณีดังกล่าวได้ดำเนินการจนถึงลงนามสั่งจ่ายเช็คนำไปขึ้นเงินกับธนาคารโดยไม่ปรากฏว่ามีเอกสารแนบเรื่องแต่อย่างใด รูปเรื่องจึงฟังได้ว่า ผู้อุทธรณ์ดำเนินการโดยมีนาย ภ. ปศุสัตว์จังหวัด รู้เห็นร่วมมือดำเนินการด้วย ข้ออุทธรณ์ที่ว่า ผู้อุทธรณ์ได้กระทำการตามที่นาย ภ. เป็นผู้สั่งการให้ผู้อุทธรณ์ดำเนินการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลอันเป็นเท็จเพื่อนำเงินมาส่งให้กับสำนักงานประกันสังคมจังหวัด จึงรับฟังได้ อย่างไรก็ดี เมื่อผู้อุทธรณ์ได้รับคำสั่ง ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติตามจะทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการ ก็ควรที่จะเสนอความเห็นเป็นหนังสือเพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทบทวน แต่ไม่ปรากฏว่าผู้อุทธรณ์ได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด การกล่าวอ้างว่าดำเนินการตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการเพื่อให้ตนเองพ้นผิด จึงไม่สามารถกล่าวอ้างได้ จากพยานหลักฐานรับฟังได้ว่า ผู้อุทธรณ์ได้เบิกเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของข้าราชการบำนาญ จำนวน 3 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้นจำนวน 187,574 บาท เป็นเท็จ เนื่องจากข้าราชการบำนาญทั้ง 3 ราย ไม่ได้ใช้สิทธิหรือนำหลักฐานการรับเงินที่สถานพยาบาลซึ่งตนเองหรือบุคคลในครอบครัวเข้ารับการรักษาพยาบาลออกให้ยื่นต่อสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดแต่อย่างใด โดยผู้อุทธรณ์ได้เขียนเช็คจำนวน 2 ฉบับ สั่งจ่ายในชื่อ “สำนักงานประกันสังคมจังหวัด” เป็นเงินจำนวน 162,504 บาท เพื่อชำระเงินค่าประกันสังคมย้อนหลังให้กับสำนักงานประกันสังคมจังหวัด และสั่งจ่ายในชื่อ “ผู้อุทธรณ์” เป็นเงินจำนวน 25,070 บาท แต่ไม่พบหลักฐานว่าเป็นการสั่งจ่ายเพื่อการใด เมื่อผู้อุทธรณ์เป็นเจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญการ มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการขอรับเงินบำเหน็จบำนาญ บำเหน็จตกทอดของข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และข้าราชการบำนาญ กรณีจึงเป็นการกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต และฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 85 (1) และ (4) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 การที่อธิบดีกรมปศุสัตว์มีคำสั่งลงโทษไล่ผู้อุทธรณ์ออกจากราชการ นั้น ระดับโทษเหมาะสมแล้ว อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น จึงวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์

 

วันที่