Skip to main content
x

 

การแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสูงโดยใช้วิธีการย้าย

 

เรื่องดำที่   6020141  เรื่องแดงที่   0017261
ผลคำวินิจฉัย     ยกคำร้องทุกข์
กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
  1. พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
  2. กฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551
  3. หนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 0708/ว 9 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2535

 

              การพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง เป็นดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุที่จะเลือกใช้แนวทางใดก็ได้ แต่ทั้งนี้ การใช้ดุลพินิจในการพิจารณาเลือกแนวทางในดำเนินการ หลักเกณฑ์และวิธีการที่ใช้ในการดำเนินการ ตลอดจนการพิจารณาบุคคลที่จะแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าว ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยต้องคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ ดังนั้น การที่ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุใช้วิธีการย้ายข้าราชการประเภทประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ มาแต่งตั้งในตำแหน่งผู้อำนวยการสูง โดยที่บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ตลอดจนคุณลักษณะอื่น ๆ ที่จำเป็นและเหมาะสมกับตำแหน่งที่ว่าง จึงเป็นการดำเนินการโดยชอบแล้ว และไม่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมแต่อย่างใด
 

ข้อเท็จจริง

              เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโฆษก (ผู้อำนวยการระดับสูง) สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ว่างลง โดยสำนักงานเลขาธิการได้ตรวจสอบและจัดทำข้อมูลของข้าราชการ เพื่อพิจารณาย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโฆษกที่ว่าง ประกอบด้วยข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการ ระดับสูง จำนวน 9 ราย และประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ จำนวน 4 ราย โดยเรียงตามอาวุโส พร้อมทั้งประวัติการศึกษา ประวัติการรับราชการตั้งแต่แรกบรรจุ การเลื่อนระดับ การย้าย การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ประวัติการเลื่อนเงินเดือน การฝึกอบรม สัมมนา และดูงาน รวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของสำนักโฆษก ไปเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้พิจารณาแล้ว จึงมีคำสั่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ 133/2560 ลงวันที่ 27 กันยายน 2560 ย้ายนางสาว น. ผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อต่างประเทศ ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโฆษก ซึ่งผู้ร้องทุกข์เห็นว่าการมีคำสั่งย้ายข้าราชการดังกล่าวเป็นการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
 

คำวินิจฉัย

             ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้ใช้อำนาจในฐานะผู้มีอำนาจสั่งบรรจุ ตามมาตรา 57 วรรคหนึ่ง (5) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ใช้แนวทางการดำเนินการในการแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโฆษก (ผู้อำนวยการระดับสูง) ที่ว่าง โดยให้ดำเนินการย้ายข้าราชการประเภทอำนวยการ ระดับสูง หรือประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ไปดำรงตำแหน่งประเภทอำนวยการ ตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักโฆษก (ระดับสูง) ที่ว่าง การที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อความเหมาะสม เพื่อประโยชน์ของทางราชการ และสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเพื่อเป็นการพัฒนาข้าราชการและความก้าวหน้าในสายอาชีพของข้าราชการ เป็นการสร้างผู้นำและผู้บริหารของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในอนาคต พิจารณาจากความรู้ ความสามารถ ประวัติรับราชการ ประสบการณ์ ความรับผิดชอบ ความเป็นผู้นำ และคุณลักษณะอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานสำหรับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโฆษก หน้าที่ความรับผิดชอบและลักษณะงาน จึงย้ายนางสาว น. ผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อต่างประเทศ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโฆษก นอกจากนี้ จากประวัติการรับราชการของนางสาว น. แสดงให้เห็นว่า นางสาว น. เป็นผู้มีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์เกี่ยวกับงานในสายงานวิเทศสัมพันธ์และด้านประชาสัมพันธ์และสื่อต่างประเทศเป็นอย่างดี ซึ่งทั้งสองลักษณะงานดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักโฆษกแสดงให้เห็นว่า นางสาว น. ได้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานของสำนักโฆษกอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ดังนั้น การที่เลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการย้ายข้าราชการประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโฆษก (ระดับสูง) ที่ว่าง ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 0708/ว 9 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2535 โดยย้ายนางสาว น. ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโฆษกที่ว่าง จึงเป็นการบริหารทรัพยากรบุคคลที่คำนึงถึงผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพขององค์กร และลักษณะของงาน ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ทั้งนี้ ก็เพื่อประโยชน์ของทางราชการ จึงไม่ขัดกับมาตรา 42 (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 การดำเนินการเพื่อแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักโฆษก (ผู้อำนวยการระดับสูง) จึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ.กำหนด และไม่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ก.พ.ค. จึงวินิจฉัยให้ยกคำร้องทุกข์
 

 

วันที่