Skip to main content
x

 

 

ถูกย้ายโดยไม่เป็นธรรม

 
เรื่องดำที่ 5820102  เรื่องแดงที่ 0091259
ผลคำวินิจฉัย  ฟังไม่ขึ้น
กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
                 หนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 10 ลงวันที่ 15 กันยายน 2548
ข้อเท็จจริง
                 ผู้ร้องทุกข์รับราชการตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตท้องที่จังหวัดสิงห์บุรี ได้ร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค. ในเรื่องที่ได้รับคำสั่งให้ย้ายจากสำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดปทุมธานี ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานฯ จังหวัดนครนายก โดยผู้ร้องทุกข์มิได้เขียนคำร้องขอย้าย  ต่อมาผู้ร้องทุกข์ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานฯ จังหวัดชลบุรี เขตท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมิได้เขียนคำร้องขอย้าย  หลังจากนั้น วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ผู้ร้องทุกข์ได้เขียนคำร้องขอย้าย ตามลำดับดังนี้ (1) สำนักงานฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (2) ช่วยราชการสถาบัน ก. (3) สำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดปทุมธานี (4) สำนักงานฯ จังหวัดนครนายก  โดยเหตุที่ผู้ร้องทุกข์ขอย้ายเนื่องจากผู้ร้องทุกข์สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีเป็นที่ยอมรับแก่ผู้บริหารในจังหวัด ประชาชน เยาวชนและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี มีผลงานเป็นที่ประจักษ์จำนวนมาก  ประกอบกับผู้ร้องทุกข์ได้ซื้อบ้านและพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี มีบุตรจำนวน 2 คน ที่กำลังศึกษา ผู้ร้องทุกข์ต้องเดินทางไปกลับระยะทางรวม 180 กิโลเมตร เพื่อดูแลบุตรทุกวัน มีค่าใช้จ่ายสูงและหากจะเช่าบ้านอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทราก็เป็นห่วงบุตร เพราะปัจจุบันจังหวัดปทุมธานีกำลังมีปัญหาด้านยาเสพติดและปัญหาอาชญากรรมเป็นอย่างมาก และจากการที่ต้องขับรถระยะทางไกลมาก จึงทำให้ผู้ร้องทุกข์มีปัญหาสุขภาพหมอนรองกระดูกบริเวณต้นคอเคลื่อนทับเส้นประสาทมีอาการชาปลายมือปลายเท้า ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะขับรถได้ ผู้ร้องทุกข์จึงขอย้ายไปจังหวัดปทุมธานีเพื่อดูแลครอบครัว โดยหากไม่ได้ย้ายตามที่ระบุไว้ก็ขอระงับ  แต่ต่อมาวันที่ 27 พฤษภาคม 2558 ผู้ร้องทุกข์ได้รับคำสั่งให้ย้ายจากสำนักงานฯ จังหวัดนครนายก ให้ไปดำรงตำแหน่งที่สำนักงานฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตท้องที่จังหวัดสิงห์บุรี และในวันเดียวกันได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดนนทบุรี  ผู้ร้องทุกข์จึงขอให้ ก.พ.ค. พิจารณาการโยกย้ายที่เกิดจากความไม่โปร่งใส และพิจารณาให้ผู้ร้องทุกข์กลับไปดำรงตำแหน่งนักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดปทุมธานี
คำวินิจฉัย  
                 ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า การยื่นคำขอย้ายของผู้ร้องทุกข์นั้นเป็นเพียงการแสดงความจำนงในเบื้องต้นว่าผู้ร้องทุกข์มีความประสงค์จะขอย้ายไปปฏิบัติราชการในส่วนราชการแห่งใดเท่านั้น  กรณีดังกล่าวไม่ตัดอำนาจของปลัดกระทรวงในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจในการสั่งบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ที่จะใช้อำนาจและดุลพินิจในทางบริหารพิจารณาสั่งย้ายผู้ร้องทุกข์ไปดำรงตำแหน่งอื่นนอกเหนือจากที่ได้แสดงความจำนงไว้  ซึ่งหากปลัดกระทรวงพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์ของทางราชการหรือมีเหตุผลบางประการที่สมควรย้ายผู้ร้องทุกข์ไปดำรงตำแหน่งอื่นนอกจากที่ผู้ร้องทุกข์ได้ยื่นคำขอย้ายไว้ก็ย่อมสามารถกระทำได้  และเมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องทุกข์และคำแก้คำร้องทุกข์แล้วก็ปรากฏว่า ผู้ร้องทุกข์มีปัญหาความขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชาทั้งในส่วนของสำนักงานฯ จังหวัดนครนายก และสำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดปทุมธานี มาโดยตลอด  ซึ่งหากให้ผู้ร้องทุกข์กลับไปปฏิบัติราชการในส่วนราชการดังกล่าวก็อาจจะส่งผลให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มมากขึ้น อันจะไม่ก่อให้เกิดผลดีแก่การบริหารราชการและอาจจะส่งผลกระทบต่อตัวของผู้ร้องทุกข์เอง และยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ระบบราชการได้  อีกทั้งตำแหน่งที่ผู้ร้องทุกข์ได้รับคำสั่งให้ย้ายไปแต่งตั้งนั้นก็เป็นตำแหน่งในระดับเดียวกันกับตำแหน่งเดิมของผู้ร้องทุกข์ มิได้เป็นการย้ายผู้ร้องทุกข์ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในระดับที่ต่ำกว่าเดิมแต่อย่างใด  กรณีจึงเชื่อได้ว่าปลัดกระทรวงได้ใช้ดุลพินิจพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยได้คำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการและประโยชน์ของผู้ร้องทุกข์ หรือผลกระทบที่จะเกิดมีขึ้นแก่ผู้ร้องทุกข์อย่างถี่ถ้วนแล้ว  ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าปลัดกระทรวงได้ออกคำสั่งย้ายผู้ร้องทุกข์ไปสังกัดสำนักงานฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตท้องที่จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีเจตนากลั่นแกล้งหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ผู้ร้องทุกข์  ส่วนกรณีปลัดกระทรวงได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดนนทบุรี นั้น  เห็นว่า ปลัดกระทรวงในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงย่อมมีอำนาจที่จะใช้ดุลพินิจพิจารณาออกคำสั่งให้ข้าราชการในสังกัดไปปฏิบัติราชการที่ส่วนราชการอื่นได้ ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2545 มาตรา 21  แต่ทั้งนี้การออกคำสั่งดังกล่าวก็ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของทางราชการหรือการบริหารราชการ ต้องไม่กระทำไปโดยมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ข้าราชการผู้นั้น  สำหรับเรื่องนี้ผู้ร้องทุกข์ได้ยื่นคำขอย้ายโดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากผู้ร้องทุกข์ได้ซื้อบ้านและพักอาศัยอยู่ที่อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี และมีบุตร 2 คน ซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นจำเป็นต้องให้การเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด ผู้ร้องทุกข์ต้องขับรถไปกลับระหว่างบ้านพักอาศัยกับสำนักงานฯ จังหวัดชลบุรี เขตท้องที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร เพื่อดูแลบุตรทุกวัน ทำให้มีปัญหาสุขภาพหมอนรองกระดูกบริเวณต้นคอเคลื่อนทับเส้นประสาทมีอาการชาปลายมือปลายเท้า อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะขับรถยนต์อยู่บนถนนได้  การที่ปลัดกระทรวงได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ไปช่วยราชการที่สำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับเขตท้องที่จังหวัดปทุมธานี ก็เป็นการช่วยเหลือผู้ร้องทุกข์ทำให้ผู้ร้องทุกข์ไม่ต้องเดินทางไปปฏิบัติราชการเป็นระยะทางไกลเหมือนเช่นเคย และทำให้ผู้ร้องทุกข์สามารถใช้เวลาดูแลครอบครัวได้มากขึ้น  อีกทั้งจังหวัดนนทบุรีก็เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย  ผู้ร้องทุกข์ย่อมใช้ความรู้ความสามารถของตนในการพัฒนาเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของสำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดนนทบุรี ได้เป็นอย่างดี  ประกอบกับเรื่องนี้สำนักงานฯ จังหวัดสิงห์บุรีได้ชี้แจงข้อมูลว่า หากมีการให้ข้าราชการในสังกัดไปช่วยราชการที่อื่น จำนวนผู้ปฏิบัติงานที่เหลืออยู่ก็เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน จึงแสดงให้เห็นว่าการที่ปลัดกระทรวงได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดนนทบุรี ก็มิได้ส่งผลกระทบหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อการปฏิบัติงานของสำนักงานฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตท้องที่จังหวัดสิงห์บุรี แต่อย่างใด  ดังนั้น ข้อเท็จจริงยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้รับฟังได้ว่า ปลัดกระทรวงได้ออกคำสั่งดังกล่าวโดยมีเจตนาที่จะกลั่นแกล้งผู้ร้องทุกข์ หรือออกคำสั่งไปโดยมีแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องทุกข์แต่เพียงอย่างเดียว  อีกทั้งการออกคำสั่งดังกล่าวก็ไม่เป็นการขัดต่อหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1006/ว 10 ลงวันที่ 15 กันยายน 2548 แต่อย่างใด  คำสั่งย้ายผู้ร้องทุกข์จากสำนักงานฯ จังหวัดนครนายก ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สำนักงานฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตท้องที่จังหวัดสิงห์บุรี  และคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานฯ จังหวัดนครนายก เขตท้องที่จังหวัดนนทบุรี จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว  ก.พ.ค. จึงวินิจฉัยให้ยกคำร้องทุกข์
 
วันที่