Skip to main content
x

                   

ความรักที่ขาดศีลธรรม

 

                     วันนี้ “ก.พ.ค. ขอบอก” ขอเสนอเรื่องราวความรักของ  ผู้อุทธรณ์รายหนึ่งที่มีต่อลูกจ้างสาวซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา  แต่ความรักของผู้อุทธรณ์รายนี้กลับไร้ซึ่งศีลธรรมจรรยา และความเมตตาต่อหญิงสาว บทสรุปของความรักจึงจบลงด้วยคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ !! 
                     สำหรับเรื่องราวของผู้อุทธรณ์รายนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าผู้อุทธรณ์ไม่ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งนายอำเภอที่ลูกจ้างสาวรายนี้ปฏิบัติราชการอยู่ เพราะหลังจากผู้อุทธรณ์ย้ายไม่นาน   ผู้อุทธรณ์ก็สั่งให้ฝ่ายหญิงมาปฏิบัติหน้าที่เลขานุการหน้าห้อง โดยย้ายผู้ที่ทำหน้าที่เดิมไปปฏิบัติงานที่ฝ่ายทะเบียนแทน หลังจากนั้น ก็หาโอกาสสอบถามถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวของลูกจ้างกับคู่รัก  ในขณะเดียวกันก็มีพฤติการณ์คุกคามทางเพศทั้งด้วยวาจาและลวนลามเนื้อตัวร่างกายที่หนักข้อขึ้นตามลำดับ  นอกจากนี้ยังบอกให้ลูกจ้างสาวมาพบตนที่บ้านพักโดยมีข้ออ้างต่างๆ แต่ฝ่ายหญิงก็บ่ายเบี่ยงและเลี่ยงที่จะไม่ไปพบตลอดมา จนกระทั่งผู้อุทธรณ์ได้โทรศัพท์ไปข่มขู่ว่าจะเลิกจ้างและให้ลูกจ้างสาวมาพบที่บ้านพักเพื่อให้มาช่วยจัดของไหว้ศาลพระภูมิ ฝ่ายหญิงกลัวตกงานและเห็นว่าบริเวณศาลพระภูมิเป็นที่โล่งแจ้งติดถนนห่างจากบ้านพักพอสมควรจึงได้ตกลงไป แต่สุดท้ายกลับถูกหลอกล่อให้เข้าไปในบ้านพักและถูกผู้อุทธรณ์ใช้กำลังลากตัวขึ้นไปชั้น 2 และข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ เรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะอีกไม่กี่วันต่อมาผู้อุทธรณ์ได้เรียกหญิงสาวเข้าไปพบในห้องทำงานของตนและแสดงความหึงหวงหญิงสาวที่ผู้อุทธรณ์คิดว่าได้เดินทางไปหาแฟนโดยต่อว่าและด่าทอที่ไม่ยอมมาพบตนที่บ้านพักอีก รวมทั้งได้เข้าไปตบหน้าและทำร้ายร่างกายอีกด้วย
                      กรณีนี้ ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า ลูกจ้างสาวรายนี้ให้การว่า ตนถูกข่มขืนทั้งที่ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้อุทธรณ์และไม่มีเหตุผลที่จะให้ร้ายผู้อุทธรณ์ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชา อีกทั้งการให้การดังกล่าวอาจทำให้เกิดปัญหากับคนรักของตนที่กำลังจะหมั้นและแต่งงานกันได้  ประกอบกับเพื่อนร่วมงานได้ให้ถ้อยคำว่า ลูกจ้างสาวรายนี้เป็นคนเรียบร้อย  ขยันทำงาน และพูดน้อย และมีผู้รู้เห็นหลังจากที่ลูกจ้างสาวถูกทำร้ายร่างกายและวิ่งร้องไห้ออกมาจากห้องทำงานของผู้อุทธรณ์อีกด้วย ดังนั้น เมื่อพิจารณาการกระทำของผู้อุทธรณ์แล้วเห็นว่า ผู้อุทธรณ์เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เป็นหัวหน้าปกครองบังคับบัญชาข้าราชการในอำเภอและรับผิดชอบบริหารราชการของอำเภอเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติและได้รับความเชื่อถือจากประชาชน การที่ผู้อุทธรณ์กระทำเช่นนี้ต่อผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งที่ทราบว่า เขามีคนรักอยู่แล้ว การกระทำของผู้อุทธรณ์จึงเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง การที่ต้นสังกัดมีคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการนั้นจึงชอบด้วยกฎหมายแล้วอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น จึงวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์
                  เรื่องนี้จึงเป็นอุทาหรณ์แสดงให้เห็นถึงแง่มุมความรัที่หากขาดซึ่งศีลธรรม ขาดความยับยั้งชั่งใจ ขาดความรู้สึผิดชอบชั่วดี สุดท้ายผลลัพธ์ของความรักเช่นนี้ย่อมพบเจอกับหายนะได้อย่างแน่นอน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง นะ..ขอบอก...
 
ผู้เขียน : นางจารุวรรณ คุณธรณ์
(ตีพิมพ์ในจุลสาร "ก.พ.ค. News" ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 มกราคม - มีนาคม 2561)

 

ประเภทเนื้อหา
วันที่
The website encountered an unexpected error. Please try again later.