Skip to main content
x
 
 

การแต่งตั้งรักษาราชการแทนในตำแหน่งโดยมิชอบ

 
(เรื่องดำที่ 5220062 เรื่องแดงที่ 0138252)
ผลการพิจารณา  ฟังขึ้น
ข้อเท็จจริง
               ผู้ร้องทุกข์รับราชการตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง ได้ร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค. ในเรื่องที่ปลัดกระทรวงได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้ร้องทุกข์ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงอีกหน้าที่หนึ่ง โดยให้ปฏิบัติหน้าที่หลักและปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ปลัดกระทรวงมอบหมาย  ทั้งที่ตามกรอบอัตรากำลังของสำนักงานปลัดกระทรวงไม่มีตำแหน่งผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงแต่อย่างใด  ภายในวันเดียวกันนี้ปลัดกระทรวงมีบันทึกสั่งการให้ผู้ร้องทุกข์ส่งมอบงานในหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์และไปรายงานตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ใหม่ พร้อมกับมีคำสั่ง 2 ฉบับ ให้นาย ฐ. เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 8 ว จากอีกสำนักหนึ่ง ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ดังกล่าวและให้นาย ฐ. รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ ลำดับที่ 1  ผู้ร้องทุกข์ส่งมอบงานในหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เพียงบางส่วนให้นาย ฐ. ดำเนินการ  แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์และหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงด้วย เพราะยังไม่มีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์และงานในหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมีปริมาณไม่มาก  ขึ้นอยู่กับการมอบหมายหน้าที่ของหัวหน้าผู้ตรวจราชการ  อีกทั้งสถานที่ปฏิบัติงานของผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงกับผู้อำนวยการศูนย์เป็นสถานที่เดียวกัน คือ ห้องของผู้อำนวยการศูนย์  หลังจากนั้น ปลัดกระทรวงสั่งการให้ข้าราชการที่ปฏิบัติงานอยู่ในศูนย์ส่งงานต่าง ๆ ของศูนย์ให้นาย ฐ. สั่งการในฐานะผู้รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์  ทั้งที่ผู้ร้องทุกข์ยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์และมาปฏิบัติหน้าที่ราชการอยู่ที่ห้องผู้อำนวยการศูนย์ทุกวัน  ปลัดกระทรวงยอมรับว่าการที่มีคำสั่งดังกล่าวเพื่อให้ผู้ร้องทุกข์พ้นจากการดูแลรับผิดชอบโครงการหนึ่งที่มีวงเงินงบประมาณ 67,920,000 บาท ซึ่งผู้ร้องทุกข์ดำเนินการในฐานะผู้อำนวยการศูนย์และเป็นประธานคณะกรรมการกำหนดการร่าง TOR รวมทั้งร่างเอกสารประกวดราคา เนื่องจากเกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่าผู้ร้องทุกข์กำหนด TOR โครงการนี้เพื่อประโยชน์ของทางราชการจริงหรือไม่  และเมื่อ ก.พ. ประกาศการจัดทำมาตรฐานกำหนดตำแหน่งและจัดตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญของทุกส่วนราชการเข้าประเภทตำแหน่ง สายงาน และระดับตำแหน่งตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ปลัดกระทรวงก็มีคำสั่งแต่งตั้งผู้ร้องทุกข์ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ตามเดิม และผู้ร้องทุกข์ยังได้รับเงินประจำตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน  แต่ทางปฏิบัติปลัดกระทรวงยังคงให้นาย ฐ. รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ ลำดับที่ 1 และปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์จนถึงปัจจุบัน
คำวินิจฉัย
               ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องนี้มีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า การกระทำของปลัดกระทรวงที่ให้นาย ฐ.ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่  พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ขณะที่ปลัดกระทรวงมีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงอีกหน้าที่หนึ่งนั้น ผู้ร้องทุกข์ยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์อยู่  หมายความว่าผู้ร้องทุกข์มีหน้าที่ราชการที่ต้องปฏิบัติ 2 หน้าที่ คือ หน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ผู้ร้องทุกข์ดำรงตำแหน่งอยู่เดิมกับหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวง  แสดงว่าขณะนั้นตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ยังมีผู้ดำรงตำแหน่งอยู่  อีกทั้งหลังจากปลัดกระทรวงมีคำสั่งดังกล่าวแล้ว  ผู้ร้องทุกข์ได้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งสองตำแหน่งเพราะยังไม่มีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ และสถานที่ปฏิบัติงานของผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงกับสถานที่ปฏิบัติงานของผู้อำนวยการศูนย์เป็นสถานที่เดียวกัน  รวมทั้งปรากฏข้อเท็จจริงว่างานในหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมีปริมาณไม่มาก เพราะนับตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2551 ที่ปลัดกระทรวงมีคำสั่งจนถึงปัจจุบัน  ผู้ร้องทุกข์ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปร่วมตรวจราชการเพียง 4 ครั้ง ทำให้ผู้ร้องทุกข์สามารถมาปฏิบัติหน้าที่ราชการอยู่ที่ห้องผู้อำนวยการศูนย์เป็นประจำทุกวัน  และผู้ร้องทุกข์ยังคงได้รับเงินประจำตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ตลอดมา  นอกจากนี้ เมื่อ ก.พ. ประกาศการจัดทำมาตรฐานกำหนดตำแหน่งและจัดตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญของทุกส่วนราชการเข้าประเภทตำแหน่ง สายงาน และระดับตำแหน่งตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่ง เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551  ปลัดกระทรวงก็มีคำสั่งแต่งตั้งผู้ร้องทุกข์ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ตามเดิม  ประกอบกับปลัดกระทรวงยอมรับว่าแม้จะได้มีคำสั่งให้ผู้ร้องทุกข์ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงอีกหน้าที่หนึ่งนั้น  แต่ทางปฏิบัติยังมีการเสนองานของศูนย์ต่อผู้ร้องทุกข์เพื่อพิจารณาสั่งการอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นปลัดกระทรวงยืนยันว่าการที่ปลัดกระทรวงแต่งตั้งผู้ร้องทุกข์ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงอีกหน้าที่หนึ่งนั้น  มิได้ทำให้ผู้ร้องทุกข์ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์  ฉะนั้น จึงมิใช่กรณี “ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้” ตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่อย่างใด
               ดังนั้น การที่ปลัดกระทรวงสั่งให้นาย ฐ. ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ ในขณะที่ผู้ร้องทุกข์ยังดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์และสามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ได้ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย  คำร้องทุกข์ฟังขึ้น  ก.พ.ค. จึงวินิจฉัยให้ปลัดกระทรวงยกเลิกคำสั่งลงวันที่ 29 มกราคม 2551 เฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการให้นาย ฐ. รักษาราชการแทนผู้อำนวยการศูนย์ ลำดับที่ 1 นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และให้ปลัดกระทรวงสั่งการให้นาย ฐ. รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ราชการของศูนย์ ที่ได้ดำเนินการระหว่างวันที่ 29 มกราคม 2551 ถึงวันที่ 21 กรกฎาคม 2552 ให้ผู้ร้องทุกข์ซึ่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์และมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลรับผิดชอบงานของศูนย์ตามกฎหมายทราบโดยเร็ว
 
วันที่