Skip to main content
x
 
 

ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการประเมินผลการปฏิบัติราชการเพราะถูกผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้งให้คะแนนน้อย

 

เรื่องดำที่ 5920059  เรื่องแดงที่ 0070259
ผลคำวินิจฉัย  ฟังไม่ขึ้น
กฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
                      1.  พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 
                      2.  กฎ ก.พ.ค. ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 
                      3.  กฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 
                      4.  หนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1012/ว 20 ลงวันที่ 3 กันยายน 2552
ข้อเท็จจริง
                     ผู้ร้องทุกข์รับราชการตำแหน่งนิติกรชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวง ก. ได้ร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค. ว่า  ผู้ร้องทุกข์ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการประเมินผลการปฏิบัติราชการ รอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 (1 ตุลาคม 2557 ถึง 31 มีนาคม 2558)  เนื่องจากผู้อำนวยการสำนักเป็นผู้ประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้ร้องทุกข์ด้วยตนเองและให้คะแนนน้อยเนื่องจากต้องการกลั่นแกล้งผู้ร้องทุกข์ให้ได้รับการเลื่อนเงินเดือนน้อย  ส่วนปลัดกระทรวง ก. ได้เห็นชอบในผลการประเมินฯ ดังกล่าวและมีคำสั่งเลื่อนเงินเดือนโดยมิได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประเมินผลฯ ของผู้อำนวยการสำนัก
คำวินิจฉัย
                      ก.พ.ค. พิจารณาแล้วเห็นว่า  เรื่องนี้มีประเด็นที่ต้องพิจารณาว่า กระบวนการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนในรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 ได้ดำเนินการไปโดยชอบหรือไม่ ประการใด  โดยมีประเด็นที่ต้องพิจารณาประการแรกว่า กระบวนการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนในรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 ได้ดำเนินการไปโดยชอบหรือไม่  ซึ่งพิเคราะห์จากข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า กระบวนการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนในรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 ก่อนที่ปลัดกระทรวง ก. จะมีคำสั่งเลื่อนเงินเดือนให้แก่ผู้ร้องทุกข์ นั้น  ปลัดกระทรวง ก. ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งแจ้งตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1012/ว 20 ลงวันที่ 3 กันยายน 2552 แล้ว กระบวนการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว 
                      ประเด็นที่ต้องพิจารณาประการต่อมา คือ การประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้ร้องทุกข์ ครั้งที่ 1/2558 เป็นธรรมหรือไม่ ประการใด  ซึ่งพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ ซึ่งแจ้งตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1012/ว 20 ลงวันที่ 3 กันยายน 2552 ข้อ 2 (7) และ (11) ผู้ประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ ได้แก่ ผู้บังคับบัญชาระดับสำนัก กอง หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าสำนักหรือกอง สำหรับข้าราชการพลเรือนสามัญที่อยู่ในบังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชาที่ได้รับมอบหมาย  เมื่อข้อเท็จจริงในสำนวนฟังได้ว่า หัวหน้ากลุ่มงานฯ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับต้นและผู้อำนวยการสำนักฯ เป็นผู้ประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้ร้องทุกข์ในรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 ก่อนนำเสนอผู้บังคับบัญชาและคณะกรรมการกลั่นกรองผลการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ สำนักงานปลัดกระทรวง ก. เพื่อพิจารณาต่อไป  จึงเห็นได้ว่าการประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้ร้องทุกข์ตามร้องทุกข์เรื่องนี้ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของผู้บังคับบัญชาระดับสำนัก  ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญดังกล่าวแล้ว 
                     สำหรับการประเมินให้คะแนนผลการปฏิบัติราชการของผู้ร้องทุกข์ มีองค์ประกอบ 2 องค์ประกอบ คือ ผลสัมฤทธิ์ของงานและสมรรถนะ  ซึ่งผู้ร้องทุกข์มีตัวชี้วัดผลสัมฤทธิ์ของงาน 6 ตัวชี้วัด และมีหัวข้อการประเมิน 5 หัวข้อ  ซึ่งผลการประเมินของผู้บังคับบัญชาสรุปได้ว่า องค์ประกอบที่ 1 ผลสัมฤทธิ์ของงาน คะแนน (ก) 76 คะแนน น้ำหนัก (ข) 70% รวมคะแนน (ก×ข) 53.2 คะแนน องค์ประกอบที่ 2 สมรรถนะ คะแนน (ก) 74 คะแนน น้ำหนัก (ข) 30% รวมคะแนน (ก×ข) 22.2 คะแนน  ผลการประเมินทั้งสององค์ประกอบ ผู้ร้องทุกข์ได้คะแนนรวม 75.4 คะแนน ระดับดี (71.00 – 80.99 คะแนน)  ซึ่งมีข้อพิจารณาต่อไปว่า ผู้บังคับบัญชาใช้เหตุผลหรือข้อมูลใดประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้ร้องทุกข์  ตามหลักการของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 การเลื่อนเงินเดือนข้าราชการพลเรือนสามัญให้เลื่อนตามผลงาน คือ ผู้ดำรงตำแหน่งระดับเดียวกันมีผลงานเท่ากันควรได้รับการเลื่อนเงินเดือนเป็นมูลค่าที่เท่ากัน  ผู้ดำรงตำแหน่งต่างระดับกันหรือมีผลงานต่างกันควรได้รับการเลื่อนเงินเดือนเป็นมูลค่าที่ต่างกัน  ซึ่งเมื่อพิจารณาข้อมูลตามคำแก้ร้องทุกข์และเอกสารหลักฐานแล้วเห็นว่า ในรอบการประเมินครั้งที่ 1/2558 ผู้ร้องทุกข์ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่รายของผู้ดำรงตำแหน่งนิติกร ระดับชำนาญการ มีผลงานตามตัวชี้วัดน้อยที่สุด น้อยกว่าลำดับต่อไปซึ่งได้รับการประเมินระดับดีมาก ถึง 21 เรื่อง และน้อยกว่าผู้มีผลงานตามตัวชี้วัดมากที่สุด ซึ่งได้รับการประเมินระดับดีมาก ถึง 40 เรื่อง โดยผู้ร้องทุกข์ได้รับคะแนนผลสัมฤทธิ์ของงาน 53.20 คะแนน น้อยกว่าผู้ได้รับคะแนนผลสัมฤทธิ์ของงานลำดับถัดไป 6.86 คะแนน ส่วนคะแนนพฤติกรรมการปฏิบัติราชการ (สมรรถนะ) ผู้ร้องทุกข์ได้รับคะแนนน้อยกว่าผู้ได้รับคะแนนพฤติกรรมการปฏิบัติราชการ (สมรรถนะ) ลำดับถัดไป 1.50 คะแนน และปรากฏเอกสารหลักฐานว่าในการเสนอเรื่องที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาจะมีการแก้ไขหรือเร่งรัดงาน  การที่ผู้อำนวยการสำนักกฎหมายใช้ดุลพินิจประเมินผลการปฏิบัติราชการในรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าวประกอบข้อมูลการลา พฤติกรรมการมาทำงานสาย การรักษาวินัย การปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ มาใช้ประเมินผลการปฏิบัติราชการข้าราชการตำแหน่งนิติกร ระดับชำนาญการ จำนวน 3 คน อยู่ในระดับดีมาก ส่วนผู้ร้องทุกข์อยู่ในระดับดี จึงมีเหตุผลอันสมควร ซึ่งมิได้แสดงถึงความผิดปกติในการให้คะแนนประเมินผลการปฏิบัติราชการ และเป็นไปตามหลักการของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือน พ.ศ. 2552 ดังกล่าว  โดยคณะกรรมการกลั่นกรองผลการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการพลเรือนสามัญ สำนักงานปลัดกระทรวง ก. พิจารณาแล้วเห็นชอบด้วยในผลการประเมินดังกล่าว  ข้อเท็จจริงจึงฟังไม่ได้ว่า ผู้อำนวยการสำนักฯ เจตนากลั่นแกล้งโดยประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้ร้องทุกข์ในรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 เพื่อให้ได้รับเงินเดือนน้อย  ข้อร้องทุกข์ฟังไม่ขึ้น  กรณีจึงถือว่าผู้ร้องทุกข์ได้รับความเป็นธรรมในการประเมินผลการปฏิบัติราชการในรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 แล้ว
                       ด้วยเหตุผลดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น  ก.พ.ค. จึงเห็นว่า เมื่อพิจารณากระบวนการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนในรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 ได้ดำเนินการไปโดยชอบตามหลักเกณฑ์และวิธีการของหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1012/ว 20 ลงวันที่ 3 กันยายน 2552 ประกอบกับข้อมูลที่ผู้บังคับบัญชานำมาใช้ประเมินผลการปฏิบัติราชการ เช่น การที่ผู้ร้องทุกข์มีผลงานตามตัวชี้วัดปริมาณน้อยที่สุดของตำแหน่งนิติกรระดับชำนาญการของสำนัก ข้อมูลการลา พฤติกรรมการมาทำงานสาย การรักษาวินัย การปฏิบัติตนเหมาะสมกับการเป็นข้าราชการ แล้ว  การประเมินผลการปฏิบัติราชการของผู้ร้องทุกข์ให้อยู่ในระดับดี และได้รับการเลื่อนเงินเดือนร้อยละ 2.30 คิดเป็นเงิน 840 บาท จึงถือได้ว่าผู้ร้องทุกข์ได้รับความเป็นธรรมในการประเมินผลการปฏิบัติราชการในรอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558  คำสั่งเลื่อนเงินเดือนให้ผู้ร้องทุกข์รอบการประเมิน ครั้งที่ 1/2558 จึงชอบด้วยกฎหมาย  ก.พ.ค. จึงวินิจฉัยให้ยกคำร้องทุกข์
 
วันที่