Skip to main content
x

 

ถูกไล่ออกเพราะมียาเสพติดไว้ในครอบครอง (2)

 

          “ก.พ.ค. ขอบอก” ครั้งที่ผ่านมาได้บอกถึงจะขอเสนอต่อสำหรับเหตุผลของการพิจารณาความผิดและกำหนดโทษในเรื่องของเจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน อุทธรณ์คำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการ กรณีที่ถูกจับกุมพร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ในครั้งนี้จะขอเสนอต่อสำหรับเหตุผลอื่นๆ ที่ ก.พ.ค. ได้หยิบยกขึ้นมาพิจารณา ดังนี้
          การที่ผู้อุทธรณ์ได้อุทธรณ์ว่า ตนมิได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือช่วยเหลือผู้ใดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐมิให้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พ.ศ. 2542 ได้บัญญัติไว้ อีกทั้งศาลยังได้ให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดี จึงไม่ใช่เป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงนั้น เห็นว่า การที่ศาลได้พิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง และให้รอการลงโทษจำคุกผู้อุทธรณ์ไว้มีกำหนดสองปี นั้น เป็นเพราะ  ผู้อุทธรณ์ได้ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม ชั้นพนักงานสอบสวน ชั้นพนักงานอัยการ และในชั้นการพิจารณาของศาลโดยศาลเห็นว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี  ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการดำเนินการทางวินัย  อีกทั้งการดำเนินการทางวินัยได้มีบทบัญญัติของกฎหมายบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะแล้ว  ดังนั้น แม้ศาลจะมีคำพิพากษาในคดีอาญาให้รอการลงโทษผู้อุทธรณ์เพื่อให้โอกาสกลับตนเป็นพลเมืองดีก็ตาม ผู้บังคับบัญชาผู้มีอำนาจก็สามารถดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงและสั่งลงโทษไล่ผู้อุทธรณ์ออกจากราชการได้
          นอกจากนี้ เมื่อผู้อุทธรณ์เป็นผู้กระทำความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 เสียเอง จึงไม่สามารถอ้างมาตรการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยโดยไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือหรือรับการช่วยเหลือหรือคบค้าสมาคมกับบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด นั้น มาเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเรื่องการดำเนินการทางวินัยแก่ผู้อุทธรณ์ได้แต่อย่างใด อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น จึงวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์
          ดังนั้น การพิจารณาว่าข้าราชการจะมีความผิดใด และควรได้รับสถานโทษใดนั้น ต้องพิจารณาจากพยานหลักฐาน ข้อกฎหมาย และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น การดำรงตำแหน่ง หรืออำนาจหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญอีกประการที่ต้องตระหนักอยู่เสมอนั่นคือ ข้าราชการต้องรักษาชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการมิให้เสื่อมเสียด้วย แม้ว่าเรื่องนั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ก็ตาม  มิเช่นนั้นอาจจะต้องออกจากราชการก่อนกำหนดได้นะ..ขอบอก
 
(ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน คอลัมน์ "ก.พ.ค. ขอบอก" ฉบับวันอังคารที่ 3 พฤษภาคม 2559)
 
วันที่